จากผู้หญิงที่ติดขนมหวานมากถึงขนาดต้องมีตู้เย็นไว้ในห้องนอน
lifestyle ที่ไม่เคยเดิน supermarket และออกกำลัง
จนตอนนี้หลงรักชีวิตดีๆที่สามารถดูแลตัวเองได้จากภายใน ชอบเข้าครัวลองสูตรอาหารใหม่ๆ ออกกำลังในแบบที่ชอบ และพร้อมที่จะแบ่งปันความสุขและความรู้ดีๆในการบอกรักตัวเองด้วยการทาน คิด และใช้ชีวิต ให้คนรอบข้างได้สัมผัสถึงพลังบวกเหล่านี้ไปด้วยกัน

ลองอ่านดูว่าอะไรทำให้เมย์เริ่มดูแลตัวเอง เผื่อจะเป็นแรงบัลดาลใจให้เพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ

I am a healthy foodie who loves to eat, play in the kitchen, stay fit, travel and inspire♡ 

 

 

The Beginning

เหตุเกิดเพราะอยากลดน้ำหนัก 6 กก. ที่ได้มาตอนไปเรียนที่อเมริกา

สมัยก่อนตอนเด็กๆเป็นคนไม่มีพุงแต่ติดหวานมากกกก มีตู้เย็นไว้ในห้องนอน เอาไว้เก็บช๊อคโกแลต แต่ไม่ยักมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก อาจเพราะสูง 175 ซม. และยังเด็กอยู่ ทานเท่าไหร่ไม่ค่อยอ้วน ไม่มีความรู้เรื่องอาหารสุขภาพและการดูแลตัวเองเลย ออกกำลังก็ไม่ออก supermarket ก็ไม่เดิน

พอจบมัธยม เมย์ไปเรียนต่อป.ตรีที่อเมริกา ด้วยความเป็นคนชอบทาน เทอมแรกนี่ enjoy eating มากกกก พิซซ่า คุกกี้ เค้ก จัดเต็ม ที่ห้องไม่มีเครื่องชั่งน้ำหนัก วันๆใส่แต่ legging อากาศก็หนาว ใส่แต่เสื้อหนาวใหญ่ๆ พอจบเทอมจะกลับบ้านเท่านั้นแหละ ลองใส่กางเกงที่ใส่มา ตอนมาต้องใส่เข็มขัด แต่ตอนนี้ โอ้วแม่จ้าวววว มันคับ!!!! ได้กาลไปซื้อเครื่องชั่งน้ำหนัก

น้ำหนักขึ้น 6 กก. ใน 3 เดือนนนน คืออะไร .... เห้ย มีพุงด้วย !!

เมย์เรียนที่นั่น 3 ปี ด้วยความที่ฝรั่งตัวใหญ่ เราก็ไม่ได้รู้สึกอ้วนอะไรมาก แต่พุงที่มาแล้วไม่ไปนี่หละ เริ่มทำให้รำคาญ ด้วยความที่ไม่มีความรู้และไม่ทำอาหารเลยจึงตกเป็นเหยื่อการตลาดของสินค้าที่ “ดูเหมือนจะดี” ต่างๆใน supermarket ไม่ว่าจะเป็น OREO 100 Cal / Wholeheat Crackers ที่โซเดียมสูงมากก / Fat Free Yogurt ที่เต็มไปด้วยน้ำตาล ฯลฯ ทานอยู่เป็นปีโดยไม่ได้คิดอะไรมาก (คิดกลับไป ขำตัวเองว่าไม่ฉลาดเอาซะเลย)

เรียนจบกลับมาเริ่มไม่ไหวเพราะคนไทยตัวเล็ก เริ่มพยายามลดน้ำหนักโดยการไปออกกำลัง (เมื่อก่อนออกกำลังเหงื่อก็ไม่ค่อยออก) เริ่มพยายามทานน้อย ไม่ทานแป้ง เลี่ยงทานไขมัน มีวันนึงขับรถผ่านร้าน Lemon Farm ลองเข้าไปทานอาหารดู โอ้โห ให้ข้าวกล้องเยอะมาก ตอนแรกกลัวไม่กล้าทาน แต่พอทานแล้วอร่อย และด้วยความที่คิดถึงการทานคาร์บเยอะๆบวกกับเพิ่งออกกำลังเสร็จเลยทานซะหมดจาน

วันต่อมา ไปชั่งน้ำหนัก เฮ้ย!!! น้ำหนักไม่ขึ้น งี้เราก็ทานข้าวได้ดิ

เลยเริ่มไปฝากท้องกับ Lemon Farm ทานไปๆ ทั้งอิ่ม ทั้งอร่อย อ้าว น้ำหนักลด!!! ออกกำลังก็ไม่ได้ทำเยอะ เจ๋งอ่า

ด้วยนิสัยที่เมย์เป็นคนที่หากสนใจอะไรจะอินกับสิ่งนั้นมากๆ เมย์เลยเริ่มศึกษาเกี่ยวกับข้าวกล้อง ต่อมาจนถึงหลักโภชนาการต่างๆ ได้เริ่มทำ MSHAPPYDIET จนกลายมาเป็นเมย์ที่หลงรักการดูแลตัวเอง ชอบเข้าครัว และชอบที่จะแบ่งปันความรู้ดีๆกับเพื่อนๆมาจนถึงทุกวันนี้

 

My Knowledge

ตอนแรกเมย์ศึกษาเองจากการอ่านและลองทำตาม แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวที่อยากรู้ อยากทำอะไรแล้วก็มักจะทำให้ถึงที่สุด บวกกับการทำ MSHAPPYDIET แล้วเริ่มมีน้องๆมาปรึกษา เมย์เลยไปเรียนด้านโภชนาการมา 3 แห่ง จนตอนนี้ได้รับการรับรองเป็น Certified Health Coach หรือที่ปรึกษาด้านสุขภาพแล้ว 

  1. Certificate in Plant Based Nutrition จาก Cornell University (2013) – อันนี้เกี่ยวกับการทานเจแบบ Whole Foods เพื่อรักษามะเร็งและโรคต่างๆ
  2. Nutritional Therapy จาก Oxford College (2014) – อันนี้กว้างและตื้นไปหน่อย ไม่ค่อยแนะนำ
  3. Certified Health Coach จาก Institute of Integrative Nutrition (2016) – อันนี้ชอบมาก สอนให้คิดและดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ใครอยากเรียนบอกได้นะคะ เมย์สามารถ refer และได้ส่วนลดค่าเล่าเรียน

เมย์ยังได้ไปเรียน Intensive Plant Based Chef Training (2017) จาก Blue Lotus Plant Based Institute ที่ Huahin อีกด้วยค่ะ

นอกเหนือจากเรื่องอาหาร เมย์ได้ศึกษาเรื่องโยคะ โดยได้รับรองการเป็นครูจาก Yoga Alliance ในหลักสูตร RYS200 Goddess Yoga Teacher Training โดยเมย์จะสอนโยคะที่ผสมผสานระหว่างท่า Asana และ Movement ต่างๆ การใช้ ดนตรี essential oil และการนั่งสมาธิ เพื่อผ่อนคลาย

เมย์อยากให้นักเรียนได้ฝึกความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ กลับไปพร้อมรอยยิ้ม พลังบวกและแรงบัลดาลใจที่จะอยากดูแลตัวเองในทุกๆวัน

 

My Philosophy & Lifestyle

เมย์เป็นคนชอบทานและชอบใช้ชีวิตให้มีความสุข

เท่าที่เมย์ศึกษาและทดลอง ความเครียดเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับสุขภาพเราแล้ว เพราะฉะนั้น หากทำอะไรแล้วไม่สบายใจ เมย์จะไม่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการนับแคล อดอาหารแบบที่ตัวเองไม่พร้อม ฯลฯ

หลายคนสงสัยว่าเมย์ทานคลีนตลอดเวลารึเปล่า คำตอบคือไม่

เมย์ยังชอบทาน ชอบหาของอร่อยทาน

แต่ด้วยความที่เราทานดีมานาน ลิ้นรับรสเราเปลี่ยน อะไรที่หวาน หรือรสจัดมากๆเมย์ไม่ได้คิดว่ามันอร่อยเหมือนสมัยก่อนแล้ว กลายเป็นไม่ค่อยอยากทานอาหารพวกนี้โดยไม่ต้องบังคับตัวเอง

แต่หากเจออะไรที่อร่อยคุ้มอ้วน เช่นเค้ก หรือไวน์ดีๆเมย์ก็ยังจะทานอยู่ แต่จะแบ่งกับคนอื่น ไม่ทานคนเดียว แต่มีข้อแม้ว่าเค้กนั้นต้องทำมาจากวัตถุดิบที่ดีจากธรรมชาติเช่นครีมและเนยแท้ ไม่ใช่ครีมเทียมและมาการีน 

ส่วนมาก เมย์จะทานแบบ Whole Foods Plant Based คือเน้นการทานพืช ผัก ผลไม้ให้มาก ยังทานเนื้อสัตว์ เน้นอาหารสด ปรุงใหม่ เลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารไมโครเวฟ นมวัว ผงชูรส และน้ำตาล

นอกจากจะได้รูปร่างสมส่วนกลับคืนมา เมย์ยังได้

ระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น ผื่นที่แขนที่เป็นมาตลอดเป็น 10 ปีหายไป ตื่นตอนเช้าด้วยความสดใส ไม่ง่วงตอนบ่ายและมีแรงดีตลอดวันค่ะ

จากที่ไม่ชอบออกกำลังเลย ตอนนี้เมย์ยังออกกำลังอาทิตย์ละ 5 วันจนเป็นนิสัยด้วย

ส่วนเรื่องเข้าครัว เมื่อก่อนครอบครัวและเพื่อนๆจะรู้เลยว่าเมย์ทำอาหารไม่เป็น แม้แต่หุงข้าวหรือต้มไข่ยังไม่ทำ supermarket ก็ไม่ชอบเดิน แต่เดี๋ยวนี้เมย์ชอบเดิน supermarket มากกว่าซื้อเสื้อผ้า และกระเป๋าอีก การเข้าครัวทำอาหารลองสูตรใหม่ๆกลายเป็นกิจกรรมคลายเครียด

ด้วยความที่เมย์ไม่ใช่เชฟ ทุกสูตรที่เมย์เอามาลงคือง่ายมาก ทุกคนทำตามได้แน่นอน

เมย์อยากให้  MSHAPPYDIET เป็นแรงบัลดาลใจให้เพื่อนๆเห็นว่าการดูแลตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยากหรือน่าเบื่อ ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วยหรือมีอายุก่อน เมย์อยากสร้าง community นี้เพื่อให้เพื่อนๆได้มาคุย แบ่งปันความรู้และเป็นแรงบัลดาลใจให้แก่กัน  

หวังว่าสิ่งที่เมย์ได้ตั้งใจทำนี้จะเป็นประโยชน์

ขอบคุณที่คอยติดตาม และหวังว่าเราจะได้เจอกันเร็วๆนี้นะคะ

MS